ยอดขายรถยนต์ใหม่ในญี่ปุ่นอยู่ที่ 328,470 คันในเดือนสิงหาคม ลดลงร้อยละ 3.5 จากปีก่อน ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น (JAMA) ตามรายงานของสื่อต่างประเทศ
ตลาดรถยนต์ของญี่ปุ่นกำลังดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทดสอบระบบความปลอดภัยเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อนั้นไดฮัทสุถูกสั่งให้หยุดสายการผลิตเป็นเวลาหลายเดือน แม้ว่าไดฮัทสุจะได้รับอนุญาตให้กลับมาผลิตได้เต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคม แต่การดำเนินงานของบริษัทยังไม่กลับสู่ภาวะปกติอย่างสมบูรณ์
ในเดือนมิถุนายน โตโยต้าถูกห้ามส่งมอบรถยนต์สามรุ่น ได้แก่ Corolla Fielder, Corolla Axio และ Yaris Cross หลังจากที่กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นได้ค้นพบความผิดปกติในการทดสอบความปลอดภัยใหม่ อย่างไรก็ตาม การห้ามดังกล่าวได้ถูกยกเลิกในเดือนกรกฎาคม และการผลิตก็กลับมาดำเนินการอีกครั้งในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน หลังจากได้รับการยืนยันถึงความปลอดภัยของรถยนต์แล้ว
ข้อมูลมหภาคล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับปีก่อนในไตรมาสที่ 2 หลังจากที่หดตัวร้อยละ 2.3 ในไตรมาสแรก โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน เช่น การใช้จ่ายของผู้บริโภคและกิจกรรมทางธุรกิจ
ยอดขายรถยนต์ใหม่สะสมในญี่ปุ่นลดลงเกือบ 10% เหลือ 2,135 คันในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคม โดยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในญี่ปุ่นลดลง 9% เหลือ 2,410,249 คัน และยอดขายรถบรรทุกลดลง 16% เหลือ 443,893 คัน แต่ยอดขายรถบัสและรถโค้ชขนาดกลางและขนาดใหญ่กลับเพิ่มขึ้น 34% เหลือ 6,993 คัน
ขณะเดียวกัน ยอดขายรวมของโตโยต้าในญี่ปุ่นลดลง 19 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 871,712 คัน ยอดขายของไดฮัทสุลดลง 48 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 199,623 คัน และยอดขายของมาสด้าลดลง 29 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 90,068 คัน
ในช่วงเวลาเดียวกัน ยอดขายรวมของซูซูกิในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 483,302 คัน ยอดขายของฮอนด้าเพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 447,440 คัน และยอดขายของนิสสันลดลงเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 321,218 คัน