สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่าการผลิตรถยนต์ของไทยในเดือน มิ.ย. หดตัว 20.11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งหดตัว 16.19% เนื่องมาจากกฎระเบียบการเงินที่เข้มงวดขึ้นและหนี้ผู้บริโภคที่สูง โดยส.อ.ท.คาดว่าการผลิตทั้งปีของไทยในปี 2567 จะต่ำกว่าระดับในปี 2566
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยช่วงครึ่งปีแรกผลิตรถยนต์ของไทย มีจำนวน 761,240 คัน ลดลง 17.39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตามข้อมูลขายส่งล่าสุดที่เผยแพร่โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยอดขายรถยนต์ของประเทศไทยลดลงร้อยละ 26 เหลือ 47,662 คันในเดือนมิถุนายน จาก 64,440 คันในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เมื่อเทียบกับการลดลงร้อยละ 23.38 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนในเดือนพฤษภาคม
ยอดขายรถยนต์สะสมครึ่งปีแรกของประเทศไทยลดลงร้อยละ 24 เหลือ 308,027 คัน จาก 406,130 คันในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เหลือ 101,821 คัน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงศ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ว่า “มาตรการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของสถาบันการเงินไทย ประกอบกับหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงเกือบ 90% ของ GDP ส่งผลให้การปฏิเสธสินเชื่อรถยนต์เพิ่มขึ้น”
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ปรับลดเป้ายอดขายรถยนต์ปีนี้เหลือ 550,000 คัน จากเดิม 750,000 คัน และลดเป้าผลิตปีนี้เหลือ 1.7 ล้านคัน จากเดิม 1.9 ล้านคัน โดยคาดการณ์ว่ายอดผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2566 จะอยู่ที่ 1.84 ล้านคัน
อย่างไรก็ตาม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยังคาดการณ์ว่าปีนี้ไทยจะส่งออกรถยนต์ได้ 1.15 ล้านคัน
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นฐานการส่งออกของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก เช่น โตโยต้าและฮอนด้า มีรายงานว่าประเทศไทยมีแผนที่จะเสนอแรงจูงใจใหม่ๆ ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฮบริด เพื่อดึงดูดการลงทุนใหม่มูลค่าอย่างน้อย 5 หมื่นล้านบาท (1.4 พันล้านดอลลาร์) ในอีกสี่ปีข้างหน้า