ยอดขายรถยนต์ใหม่ของประเทศไทยลดลง 28% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่ 3 และตลาดตกต่ำอย่างต่อเนื่อง

Nov 20, 2024ฝากข้อความ

ในเดือนตุลาคม 2567 ยอดขายรถยนต์ของประเทศไทยลดลง 28% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สามของปี 2567 และ 9.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ข้อมูลนี้ตอกย้ำอีกครั้งถึงภาวะชะลอตัวในระยะยาวของตลาดรถยนต์ไทย และยอดขายลดลงติดต่อกัน 16 เดือน นักวิเคราะห์ชี้ว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความต้องการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภค ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ใหม่ยังคงอ่อนแออย่างต่อเนื่อง

news-716-387

จากข้อมูลที่เผยแพร่โดยสมาคมยานยนต์ไทย ยอดขายรถยนต์ใหม่ในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ xx ล้าน ลดลงอย่างมาก 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในเวลาเดียวกัน มีการลดลง 9.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าความหวังในการฟื้นตัวของตลาดนั้นทำได้ยากในระยะสั้น ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงสะท้อนถึงการชะลอตัวโดยรวมของตลาดรถยนต์เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการขาดกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างรุนแรงอีกด้วย

 

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความอ่อนแอของตลาดรถยนต์ไทยคือหนี้ครัวเรือนในระดับสูงของประเทศที่มีมายาวนาน จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย หนี้ครัวเรือนของไทยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันทางการเงินอย่างมากในการซื้อรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ต้องการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อรถยนต์ ระดับหนี้ที่สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะจำกัดความสามารถในการซื้อรถยนต์โดยตรง

 

ตั้งแต่มิถุนายน 2566 ยอดขายรถยนต์ไทยลดลงต่อเนื่อง 16 เดือน แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายบางรายพยายามกระตุ้นความต้องการผ่านโปรโมชั่นและส่วนลด แต่ตลาดก็ยังยากที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง

 

สมาคมยานยนต์ไทยคาดการณ์ว่าในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เป็นเรื่องยากที่ตลาดจะกลับมาเติบโตได้ในระยะสั้น และความเชื่อมั่นในการซื้อของผู้บริโภคยังไม่เพิ่มประสิทธิผล แม้ว่ารัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการบางอย่างเพื่อกระตุ้นการบริโภคในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่มาตรการเหล่านี้ดูเหมือนจะล้มเหลวในการแก้ปัญหาปัญหาหนี้ที่สูงอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ตลาดฟื้นตัวอ่อนแอ